เริม กับ การสักปาก

โรคเริมบริเวณปาก เป็นโรคทางผิวหนังที่พบได้บ่อยๆในทุกเพศทุกวัย เกิดจากเชื้อไวรัสั ที่มีชื่อว่า herpers simplex type 1 & 2 virus ไวรัสทั้งสองตัวนี้จะ ทำให้เกิดตุ่มพอง ตุ่มน้ำ ขึ้นในบริเวณ ผิวหนังชั้นเยื่อเมือกของร่างกาย ทำให้เกิดอาการคันและ เจ็บแน่นอนว่า โรคเริมเป็นโรคผิวหนังธรรมดาทั่วไปสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน สาเหตุหลักๆที่ทำให้โรคเริมออกอาการก็คือ การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือ การทำงานจนเกิดความเครียดจากการทำงานหนัก สาเหตุเหล่านี้จะทำให้ภูมิในร่างกายตก ส่งผลให้เชื้อเริมออกอาการได้ค่ะ ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึง โรคเริม กับ การสักปากกันค่ะ

โดยพื้นฐาน หากพูดด้วยหลักความเป็นจริงแล้วการสักปากเนี่ยคือการทำให้ผิวหนังบริเวณปากเป็นแผล เนื่องจากช่างสักจะทำการใช้เข็มขนาดเล็กเป็นตัวนำสีเข้าไปอยู่ภายในชั้นผิวปาก ทำให้ผิวบริเวณปากตรงนั้นเปลี่ยนสีไปตามที่ช่างต้องการแน่นอนว่าผลที่จะเกิดกับปากเลยก็คือ ผิวหนังบริเวณปากจากอ่อนแอและค่อนข้างเซนซิทีฟอย่างมากค่ะ ในกรณีของผู้ที่เคยเป็นเริมมาก่อนก็อาจจะทำให้มีโอกาสเริมกลับมาออกอาการได้ค่ะ และในกรณีที่ผู้ไม่เคยเป็นมาก่อนหากรักษาความสะอาดของช่วงปากกำลังรักษาตัวไม่เพียงพอ หรือรับประทานของหมักของดอง ของแสลงไป ระหว่างที่ปากกำลังลอกก็จะทำให้เริมเกิดขึ้นได้ค่ะ เนื่องจากผิวปากบริเวณนั้นค่อนข้างอ่อนแอ และเซนซิทีฟอย่างมาก (สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลเราเคยเขียนไปแล้วในหัวข้อที่ว่า หลังสักปากไปต้องดูแลอย่างไรบ้าง สำหรับผู้ที่กำลังหาข้อมูลดั่งกล่าวอยู่สามารถจิ้มเข้าไปอ่านได้ในลิ้งค์นี้เลยค่ะ https://www.crowneyebrow.com/post/หลังสักปากไปแล้ว-ต้องดูแลยังไงบ้าง-บทความนี้มีคำตอบค่ะ ) จึงส่งผลให้อาจจะเกิดเริมขึ้นได้ หากเผลอไปรับประทานของหมักของดอง ของแสลงค่ะ แน่นอนนอกจาก การเผลอรับประทานของหมักของดองของแสลงแล้ว อีกข้อที่หลายๆท่านอาจจะคาดไม่ถึงคือเผลอไปใช้ลิปสติกแท่งเก่าที่เคยใช้ก่อนทำการสักปากค่ะ ทราบหรือไม่คะ ว่าในลิปสติปของเราเนี่ย ต่อให้เราใช้เองแค่เราเพียงคนเดียวก็ตามก็ถือว่าเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคอย่างดีทีเดียวค่ะ เนื่องจาก เราใช้ลิปสติกของเราทุกวันกับการทาปากหลังจากทานอาหารเสร็จ หรือ ดื่มน้ำเสร็จ แน่นอนว่าเชื้อโรคพวกนั้นอาจจะเลี่ยงไมไ่ด้ และ อาจจะไม่ส่งผลต่อชีวิตประจำเรามากเท่าไหร่ก็จริงอยู่แต่ไม่ใช่กับช่วงที่ริมฝีปากอ่อนแออย่างช่วงที่เพิ่งสักปากมาค่ะ เพราะฉะนั้นแล้วหากต้องการทาลิปสีร้านสักหลายๆร้านจะแนะนำให้ใช้เป็นลิปแท่งใหม่ก่อนหรือเว้นช่วงไปก่อนในขณะที่ปากยังอ่อนแออยู่ค่ะ โดยช่วงเวลาที่ควรเว้นไปนั้นจะอยู่ที่ 1-2 สัปดาห์ขั้นต่ำ หรือให้ดีคือ 1 เดือนเป็นต้นไปค่ะ

โอเคเราพูดไปแล้วว่าทำไมถึงต้องระวังเกิดขึ้นกัน ต่อไปเราจะพูดถึงในกรณีที่เกิดขึ้นกันมั้งค่ะ แน่นอนว่าในบางคนขณะที่หลีกเลี่ยงอย่างดีแล้ว ก็อาจจะเกิดขึ้นหากเกิดขึ้นแล้ว ไม่ต้องกังวลไปนะคะว่าจะทำให้สีปากที่อุตส่าห์สักมาเนี่ยมีปัญหา หรือเปล่า แน่นอนว่าไม่มีปัญหาค่ะ หากเกิดขึ้นสามารถไปขอให้เภสัชจัดยาเพื่อรักษาได้เลย แต่หากในกรณีของคนที่เคยเป็นเริมมาก่อนอาจจะกังวลว่า มันจำเกิดขึ้นได้ไหม การกินยาดักไว้ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ แต่อย่างไรเสีย การปฎิบัติตามคำแนะนำที่ร้านสักให้ไป ก็เป็นเรื่องที่ควรทำ อย่างยิ่งนะคะ เพราะเพื่อให้ได้ ผลลัพธ์หลังหลังลอกที่สมบูรณ์ที่สุด การดูแลหลังทำการสักปากไป ก็เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยพอๆกับตอนที่ถูกสักปากเลยหล่ะค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับบทความที่เกี่ยวกับโรคเริมและการสักปากในวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยนชน์ต่อท่านที่กำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับการสักปากอยู่นะคะ หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ต่อท่านไม่มากก็น้อยค่ะ และหากใครก็ตามที่กำลังมองหาสถาบันสักเพื่อความงามขึ้นชื่อเรื่อง ความเป็นมืออาชีพ และ เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ด้านการสักเพื่อความงามอันยาวนานแล้วหล่ะก็ ทางเราก็อยากจะขอฝากร้าน crown eyebrow & beauty ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยค่ะ ด้วยประสบการณ์ด้านการสักยาวนานถึง 8 ปี การันตีผ่านเคสมามากกว่า 6,000 เคส ของอาจารย์ออยเจ้าของสถาบัน สามารถวางใจได้เลยค่ะ ว่าหนุ่มๆสาวๆทั้งหลายจะไม่ผิดหวังกับผลลัพธ์หลังลอกของทางร้านแน่นอนค่ะ สามารถทักไลน์มาสอบถามรายละเอียดได้ที่ไลน์ 𝙻𝚒𝚗𝚎:@𝚌𝚛𝚘𝚠𝚗𝟿𝟿 หรือ คลิ๊ก@ linehttps://lin.ee/chW8khZ ได้เลยนะคะ จะมีสาวๆแอดมินคอยตอบข้อซักถามรวมถึงรายละเอียดที่สาวๆอยากรู้แน่นอนค่ะ